Sigil คืออะไร?

ซีจิลยังไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าไหร่ หลายๆคนอาจจะงงว่า เจ้าซีจิลเนี่ย จริงๆแล้วคืออะไร ก่อนอื่นเรามาดูวิธีการเรียกก่อนค่ะ Sigil อ่านว่า ซีเจล หรือว่า ซีจิลค่ะ มีการค้นพบว่าจริงๆแล้วคำว่า Sigil มาจากภาษาอังกฤษยุคกลางค่ะหรือที่ถูกเรียกว่า Middle English
 
จริงๆก่อนที่จะมาเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้กันในปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์ได้มีการแบ่งภาษาอังกฤษออกเป็นอีกหลายรูปแบบเลยนะคะ โดยแบ่งตามลักษณะการใช้ต่างๆและยุคสมัย และที่มาของภาษาอังกฤษก็คือ
1. ภาษาอังกฤษยุคเก่า
2.ภาษาอังกฤษยุคกลาง (ที่มาของคำว่า Sigil)
3.ภาษาอังกฤษยุคใหม่ตอนต้น
4.ภาษาอังกฤษยุคใหม่

5.ภาษาอังกฤษยุคใหม่ตอนปลาย (ซึ่งนี่คือภาษาที่เราใช้ในปัจจุบันนั่นเองค่ะ)

ซึ่งคำว่า Sigil ในภาษาอังกฤษยุคกลางมีการเขียนว่า Sigulle ที่มีรากจากภาษาละติน แปลว่า Seal หมายถึง ตราประทับ , เครื่องหมาย , การปิดผนึกนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ซีจิลยังเกี่ยวข้องกับภาษา ฮิบรู ที่แปลว่า ยันต์ หรือคำเรียก รวมถึงการแสดงออกของ พลังงาน จิตวิญญาณต่างๆได้อีกด้วยค่ะ
 
 

เวทมนตร์ซีจิล คืออะไร?

ซีจิล มักถูกใช้ในการทำเครื่องหมายด้วยการวาด เพ้น แกะสลัก หรือการทำเครื่องหมายด้วยวิธีต่างๆด้วยจุดประสงค์ด้านเวทมนตร์ค่ะ เหล่าพ่อมด แม่มด และผู้ศึกษาด้านเวทมนตร์เชื่อว่า Sigil เป็นเวทมนตร์ที่เน้นประโยชน์ในด้านของการสร้างความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานการณ์ นอกจากนี้ยังเชื่อ Sigil เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ขึ้นเพื่อการติดต่อกับเหล่า Angel รวมถึง spirits ต่างๆอีกด้วย
 
นอกจากนี้ติวมองว่าเราสามารถประยุกต์ใช้ Sigil สัญลักษณ์ทางด้านเวทมนตร์ ควบคู่กับการดึงศักยภาพของตัวเองในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ด้วยค่ะ ติวเป็นคนที่สนใจทางด้านศาสตร์แขนงต่างๆก็จริง แต่ก็เป็นคนที่มีความหลงใหลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเอามากๆด้วยค่ะ
 
ผู้ที่ศึกษาทางด้านศาสตร์ของเวทมนตร์ โดยพื้นฐานแล้วมีความจำเป็นต้องฝึกและรู้วิธีการฝึกสมาธิ (Meditation) ฝึกการหายใจ ( Breathing ) รวมถึงการฝึกด้านจินตภาพซึ่งก็คือ การนึกภาพพร้อมกับการใส่อารมณ์ร่วม ( Visualization) ร่วมกับการฝึกด้านอื่นๆ ในขณะที่ทางวิทยาศาสตร์ก็ได้มีการศึกษา ทดลอง และมีผลวิจัยต่างๆ ว่าการฝึกสมาธิ (Meditation) เป็นประโยชน์กับร่างกายและจิตใจ ในขณะที่ในทางด้านตรรกะและวิทยาศาสตร์ก็ได้มีการพูดถึงการดึงดูดที่ทำงานพร้อมกันกับความเชื่อ (Manifestation) ที่ส่งผลให้ตัวเองสำเร็จ พัฒนา สามารถทำเป้าหมายที่ดูยาก ห่างไกลให้เกิดขึ้นจริง
 
Dr.Carol Dwek หนึ่งในผู้ทำการศึกษาด้าน Manifest ได้พูดไว้ว่า คนที่มีความเชื่อว่าพวกเขาสามารถทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จ สามารถพัฒนาได้ สามารถเรียนรู้ได้ จะสามารถทำในสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ได้สำเร็จ Key หลักที่ได้จากการวิจัยนี้คือ คำยืนยันที่บอกว่า ถ้าเราเชื่อในความสามารถและศักยภาพของตัวเอง เราก็จะตั้งใจ พยายาม หาทางเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสำเร็จจนได้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่บอกว่า ความเชื่อของเรา ไม่ว่าจะด้านบวกหรือด้านลบ มีผลต่อพฤติกรรม
 
 

สิ่งที่ Sigil สามารถทำได้ร่วมกับทางวิทยาศาสตร์คืออะไร?

หนึ่งในสิ่งที่ทำร่วมกันได้คือ การสร้างความสำเร็จด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
*การทำเป้าหมายในชีวิตที่วางไว้ให้สำเร็จ
*การพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งและดีแบบที่ต้องการ
*การปลดล๊อคศักยภาพของตัวเองในด้านที่ยังไม่ถนัด
*การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
*การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น
*etc
 
 
 

วิธีการสู่ความสำเร็จด้วย Sigil ร่วมกับหลักทางด้านวิทยาศาสตร์ มีดังนี้

1.เขียนเป้าหมายของตัวเอง ว่าต้องการอะไร ความสำเร็จด้านไหน แบบไหน
2.สร้างสัญลักษณ์ Sigil ตามวิธีการสร้างซีจิล (ซึ่งพรุ่งนี้ ติวจะมาแชร์วิธีการสร้าง Sigil แบบง่ายให้ค่ะ)
3.สร้างสัญลักษณ์ซีจิลในที่ต่างๆที่เราเห็นได้บ่อยๆ (สามารถทำได้ด้วยการวาด การทำในคอมพิวเตอร์ การสลัก หรือแบบไหนก็ได้)
4.เชื่อมพลัง Sigil (อันนี้ติวจะมาแชร์วิธีการให้เร็วๆนี้ ค่ะ)
5.นึกภาพตัวเองในตอนที่สำเร็จในแบบวิทยาศาตร์ (Manifest) ร่วมกับการใส่อารมณ์ร่วมลงในภาพนั้นๆหรือการสร้างจินตภาพเชิงศาสตร์ผู้ใช้เวทมนตร์ (Visualization)


 
จริงๆแล้วการจินตภาพ ในช่วงแรกๆอาจจะรู้สึกว่ายาก ทำได้ไม่นาน หรือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สิ่งที่ทำได้เชิงจินตภาพคือ
  • ใส่อารมณ์ร่วม = เมื่อถึงเป้าหมายความสำเร็จ ตอนนั้นเราจะรู้สึกแบบไหน ดีใจไหม ยิ้มไหม สีท่าน่าทางยังไง สุขุม น่าเกรงขาม หรือยิ้มได้กว้างไหม
  • มองเห็นภาพคนรอบตัวเรามีอาการยังไง = คนรอบข้างแสดงความดีใจแบบไหน? คนรอบข้างชื่นชมแบบไหน? คนรอบข้างยิ้มให้เราไหม? คนรอบข้างแปลกใจไหม?
  • มองเห็นภาพสภาพแวดล้อมรอบตัวเราเป็นยังไง? = ตอนนั้นเราอยู่ที่ไหน? ในอาคาร นอกอาคาร ที่กว้างหรือแคบ แสงสว่างไหม บรรยากาศเป็นอย่างไร
** ในการสร้างจินตภาพ ในช่วงแรกถ้ายังทำไม่ได้ ไม่เป็นไรเลยนะคะ สิ่งนี้อาจจะดูยาก แต่การฝึกฝนด้านจินตภาพบ่อยๆ เราจะสามารถทำได้ค่ะ ยิ่งเราเห็นภาพและรู้สึกชัดมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยเป็นการดึงศักยภาพตัวเองค่ะ
 
 
 
6.สร้างโอกาสเพื่อความสำเร็จค่ะ Key คือ ถูกที่ ถูกเวลา ถูกสถานการณ์ ถูกคน + ความเชื่อมั่น
*พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อความสำเร็จ
*นิสัยแบบไหนที่ทำให้เราสู่ความสำเร็จ
*เราต้องเรียนรู้อะไร เพื่อความสำเร็จ
*ถ้าโอกาสไม่มี หรือแทบจะน้อยมากๆ เราจะสร้างโอกาสขึ้นมาเองได้ไหม?
 
 
ในเรื่องของดวง เวทมนตร์ และการสู่ความสำเร็จมีอย่างหนึ่งที่คล้ายกันค่ะ เมื่อไหร่ที่เราไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดช่วยอำนวย สิ่งนั้นอาจจะได้มายาก หรือไม่ได้มา เช่น ดวงบอกว่าตอนอายุ 24 จะรวย เจ้าตัวเชื่อว่าจะรวย แต่ไม่มีการ take action ใดๆ ไม่พาตัวเองไปสู่เหตุการณ์เอื้อดวงหรือความสำเร็จ ย่อมยากที่จะเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่ได้มาค่ะ

 
สุดท้ายแล้วติวมองว่าศาสตร์ทุกแขนง ล้วนแต่มีเสน่ห์และมีความสวยงามของมัน และยิ่งเมื่อไหร่ที่เราสามารถนำ Key หลักของศาสตร์ต่างๆ ในแต่ละแขนง มาใช้ประกอบควบคู่กันในเชิงสร้างสรรค์ มาสร้างเป็นประโยชน์ด้านบวก ต่อตัวเอง ต่อคนอื่น ต่อสังคม และสามารถสร้างความสำเร็จได้ นั่นคือสิ่งสวยงามค่ะ
 
 
 
Note : โพสต่อไป ติวจะมาแชร์วิธีการสร้าง Sigil อย่างง่ายให้ทุกคนค่ะ ถ้าคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ สามารถแชร์แบ่งปันให้คนอื่นๆได้ค่ะ