วิธีการใช้เวทมนตร์ตามรูปแบบของพระจันทร์

วิธีการใช้เวทมนตร์ตามรูปแบบของพระจันทร์

จริงๆแล้วในการใช้เวทมนตร์หรือการทำพิธีต่างๆขึ้นกับเหตุปัจจัยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัน เวลา สภาพร่างกาย อารมณ์ วัตถุดิบ อุปกรณ์ เทศกาล และสิ่งหนึ่งที่สำคัญและเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีอิทธิพลต่อเรื่องการทำสิ่งต่างๆในด้านของเวทมนตร์และพิธีต่างๆ ก็คืออิทธิพลของดวงจันทร์

.

ในศาสตร์ของวิคคา จะให้ความสำคัญมากๆกับเทพี The Goddess ซึ่ง ถือว่าเป็นแหล่งกำเนิดในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ปัญญา ความรัก ซึ่งสัญลักษณ์คือดวงจันทร์ในสามรูปแบบ ได้แก่ จันทร์ข้างขึ้น , จันทร์เต็มดวง ,จันทร์เสี้ยวข้างแรมซึ่งเปรียบได้ถึง สาววัยแรกรุ่น สาววัยเจริญพันธ์และ หญิงชรา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงธรรมชาติทั้งปวง

.

จะเห็นได้ว่า สัญลักษณ์ของพระจันทร์เป็นสิ่งสำคัญในสายของชาววิคคา ซึ่งสำหรับในเรื่องของการประกอบพิธีกรรมต่างๆพระจันทร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

.

รูปแบบของพระจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า ในทางวิทยาศาสตร์ดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่ส่องสว่างในตัวเอง แต่ที่เห็นว่ามีแสงเนื่องจากรูปแบบการรับแสงสะท้อนมาจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถือเป็นดาวเคราะห์บนท้องฟ้าที่อยู่ใกล้กับโลกมากที่สุด ซึ่งโลกมีขนาดใหญ่เป็น 4 เท่าของดวงจันทร์ และขนาดที่แท้จริงของดวงจันทร์คือมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3,476 กิโลเมตร และเดินทางเคลื่อนที่รอบโลกใช้เวลา 1 เดือนเท่านั้น

.

ทำไมเราถึงเห็นดวงจันทร์ขึ้นเฉพาะในทิศตะวันออก? >> เพราะว่า โลกมีการหมุนรอบตัวไปในทิศตะวันออกเลยส่งผลให้เราเห็นพระจันทร์ขึ้นในทิศตะวันออกและลับขอบฟ้าในทิศตะวันตก สรุปง่ายๆก็คือ เราเห็นพระจันทร์เดินทางจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกนั่นเองค่ะ

.

ทำไมเราถึงไม่เห็นดวงจันทร์เป็นจันทร์เต็มดวงตลอดเวลา? >> สาเหตุเพราะว่าดวงจันทร์มีการหันด้านสว่างมาทางโลกในแต่ละวันไม่เท่ากันค่ะ เลยทำให้เราที่อยู่บนโลกมองเห็นเป็นจันทร์เต็มดวงบ้าง จันทร์เสี้ยวบ้าง จันทร์ข้างแรมบ้าง

.

พอเรารู้ข้อมูลทั้งทางด้านเวทมนตร์และตามความจริงทางกายภาพกันแล้ว เราจะมาดูเรื่องของดวงจันทร์และช่วงเวลาโคจรของดวงจันทร์กันบ้างค่ะ ดวงจันทร์แบ่งออกได้แยกย่อยละเอียดได้ถึง 8 รูปแบบช่วงเวลาโคจร ซึ่งแต่ละช่วงเวลาดวงจันทร์จะมีรูปร่างที่แตกต่างกัน และเหมาะกับการทำพิธีกรรม และ spell ที่ต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้